FIFA Club World Cup การแข่งขันที่ทั่วโลกรอคอย ชิงอันดับ 1 ของโลก
FIFA Club World Cup การแข่งขันที่แฟนบอลถ้วยที่ทั่วโลกรอคอย ศึกแห่งการรวมตัวของทีมแชมป์จากทุกทวีปเพื่อชิงอันดับ 1 ของโลก ในระดับสโมสร การแข่งขันนี้จะรวมทีมสโมสรชั้นนำที่คว้าแชมป์จากแต่ละทวีป เช่น UEFA Champions League, Copa Libertadores และ AFC Champions League มาแข่งขันกัน ซึ่งทุกแมตช์ในทัวร์นาเมนต์นี้จะเต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่เปิดฤดูกาลไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งการแข่งขันนี้ทำให้ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันต้องการที่จะคว้าถ้วยแชมป์ FIFA Club World Cup เป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทุกสโมสรใฝ่ฝัน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขันที่ทุกคนรอคอย คุณสามารถเชียร์ทีมโปรดของคุณในศึก ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก FIFA Club World Cup คุณสามารถรับชมศึกชิงแชมป์สโมสรฟุตบอลโลกสุดยิ่งใหญ่นี้ได้บนเว็บตรง UFABET ฟรีทุกแมตช์ ไม่มีโฆษณาขั้น คลิกเลย !!
ประวัติของFIFA Club World Cup ศึกชิงบัลลังก์สโมสรโลก
FIFA Club World Cup คือ การแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะมีทีมตัวแทนจาก 6 ทวีปทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์สโมสรโลก ซึ่งการแข่งขันนี้จัดขึ้นโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ยาวนานถึง 25 ปี ซึ่งมีการจัดการแข่งขันขึ้นครั้งแรกที่ประเทศบราซิล การแข่งขันครั้งแรกมีเพียง 8 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน โดยแชมป์รายการแรกตกเป็นของ Corinthians สโมสรจากบราซิล ซึ่งในปี 2001-2004 ใช้ชื่อการแข่งขันในรายการนี้ว่า FIFA Club World Championship ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแทนที่การแข่งขัน อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างแชมป์ยุโรปและอเมริกาใต้ โดยหลังจากแข่งขันมาอย่างยาวนาน ในปี 2023 ได้มีการประกาศว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการแข่งขัน เป็นการแข่งขัน 4 ปีครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
รูปแบบการแข่งขันFIFA Club World Cup ฤดูกาล 2024-2025
FIFA Club World Cup 2025 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สู่ศึกชิงบัลลังก์สโมสรโลกที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ซึ่งในการแข่งขัน FIFA Club World Cup 2024 ยังใช้การแข่งขันในรูปแบบเดิมอยู่ ซึ่งการแข่งขันรูปแบบใหม่จะได้เริ่มต้นขึ้นในฤดูกาล 2025 โดยเจ้าภาพที่จะทำการจัดการแข่งขันในปีนี้นั่นก็คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการนำไปสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2026 การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีทีมที่เข้าร่วมทั้งหมดเป็น 32 ทีมจากทั่วโลก
การแบ่งรอบการแข่งขันFIFA Club World Cup ฤดูกาล 2024-2025
FIFA Club World Cupปี2025 จะมีทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 32 ทีม ซึ่งจะมี 12 ทีมจากทวีปยุโรป 6 ทีมจากทวีปอเมริกาใต้ 4 ทีมจากทวีปเอเชีย 4 ทีมจากทวีปแอฟริกา 4 ทีมจากทวีปอเมริกาเหนือ, อเมริกากลางและแคริบเบียน 4 ทีม จากโอเชียเนีย 1 ทีม และ 1 ทีมจากประเทศเจ้าภาพ
1. รอบแบ่งกลุ่ม
จากเดิมที่ใช้รูปแบบการแข่งขันแบบพบกันหมดในรอบแบ่งกลุ่มและน็อคเอาท์แบบค่อยเป็นค่อยไป ในปี 2025 นี้ ฟีฟ่าได้ขยายจำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็น 32 ทีม แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม (Single-Game Round-Robin) ทีมที่ได้ อันดับ 1 และอันดับ 2 ของแต่ละกลุ่ม จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยแต่ละทีมจะแข่ง 3 นัดในรอบนี้
2. รอบ 16 ทีมสุดท้าย
รอบนี้จะเป็นการแข่งขันของทีมที่มีอันดับ 1 และ 2 จาก 8 กลุ่ม รวมทั้งหมด 16 ทีม เป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ถ้าเสมอกันในเวลาปกติจะมีการต่อเวลาพิเศษและดวลจุดโทษ
3. รอบก่อนรองชนะเลิศ
เป็นรอบการแข่งขันของทีที่มชนะจากรอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมทั้งหมด 8 ทีม รูปแบบการแข่งขันจะแข่งขันแบบแพ้คัดออก
4. รอบรองชนะเลิศ
ทีมชนะจากรอบก่อนรองชนะเลิศ รวมทั้งหมด 4 ทีม จะแข่งขันในรอบนี้โดยทีมไหนที่แพ้จะคัดออกทันที
5. รอบชิงอันดับ 3
ทีมที่เข้ารอบมาแข่งขันในรอบนี้ คือ ทีมที่แพ้ในรอบรองชนะเลิศ 2 ทีม โดยจะแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งอันดับ 3
6. รอบชิงชนะเลิศ (Final)
ทีมที่ชนะในรอบรองชนะเลิศ 2 ทีม จะแข่งขันเพื่อตัดสินแชมป์
กฎและกติกาของ FIFA Club World Cup
การแข่งขันFIFA Club World Cup หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก เป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นภายใต้การดูแลของ FIFA ซึ่งมีกฎและกติกาที่กำหนดไว้เพื่อความยุติธรรมและโปร่งใส การแข่งขันแต่ละนัดใช้เวลา 90 นาที แบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 45 นาที หากเสมอกันในรอบน็อกเอาต์ จะมีการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที (15 นาที x 2 ครึ่ง) หากยังเสมอกันจะตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
การเลือกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
- แชมป์จาก ยุโรป (UEFA Champions League)
- แชมป์จาก อเมริกาใต้ (Copa Libertadores)
- แชมป์จาก เอเชีย (AFC Champions League)
- แชมป์จาก แอฟริกา (CAF Champions League)
- แชมป์จาก อเมริกาเหนือและแคริบเบียน (CONCACAF Champions League)
- แชมป์จาก โอเชียเนีย (OFC Champions League)
- ทีมเจ้าภาพที่เข้าร่วม
กติกาในการแข่งขัน
- กติกาการเล่น
ใช้กฎกติกาฟุตบอลสากลตามที่ FIFA กำหนด การเปลี่ยนตัวนักเตะสามารถทำได้สูงสุด 5 ครั้ง (ใน 3 ช่วงเวลาไม่รวมพักครึ่ง)
- VAR (Video Assistant Referee)
ใช้เทคโนโลยี VAR เพื่อช่วยตัดสินในจังหวะสำคัญ เช่น ลูกล้ำหน้า การทำฟาวล์ หรือจังหวะจุดโทษ
การตัดสินอันดับในรอบแบ่งกลุ่ม (สำหรับรูปแบบใหม่) หากมีคะแนนเท่ากัน จะใช้เกณฑ์ดังนี้
- ผลต่างประตูได้เสีย
- จำนวนประตูที่ทำได้
- ผลการแข่งขันระหว่างทีม
- รางวัลสำหรับทีมที่ชนะการแข่งขัน
ถ้วยแชมป์ FIFA Club World Cup: เป็นรางวัลสำหรับทีมที่ชนะเลิศ
เงินรางวัล: ทีมที่เข้าร่วมจะได้รับเงินรางวัลตามอันดับที่ทำได้
รางวัลส่วนตัว: นักเตะยอดเยี่ยม (Golden Ball), ดาวซัลโว (Golden Boot), และรางวัลทีมแฟร์เพลย์
นักเตะที่สร้างตำนานในการแข่งขันFIFA Club World Cup
สถิติสำหรับ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก จากการแข่งขันFIFA Club World Cup ที่เป็นเวทีที่นักเตะชั้นนำจากทั่วโลกแสดงความสามารถและมี ผู้เล่น ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก หลายคนก็ได้สร้างตำนานไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอล นักเตะเหล่านี้ได้สร้างตำนานและผลงานที่น่าประทับใจในการแข่งขันฟุตบอลในรายการFIFA Club World Cup เป็นอย่างมากเลยทีเดียว สามารถรับชมการแข่งขันพร้อมทีมจากสโมสรดัง รวมไปถึงนักเตะในดวงใจในการแข่งขันรายการนี้ พร้อมชมการถ่ายทอดสด fifa club world cup live ได้ที่เว็บตรงของ UFABET พร้อมลงเดิมพันที่จะคว้าเงินรางวัลก้อนใหญ่กลับบ้านได้ที่นี่
1. ลิโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)
จากสโมสร บาร์เซโลนา คว้าแชมป์ 3 สมัย (2009, 2011, 2015) ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศปี 2009 และ 2011 เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม (Golden Ball) 2 ครั้ง เมสซี่เป็นกำลังสำคัญที่นำบาร์เซโลนาไปสู่ความสำเร็จในระดับโลก โดยเฉพาะการทำประตูสำคัญในรอบชิงชนะเลิศที่แสดงถึงความเฉียบขาดของเขา
2. คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)
จากสโมสร เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ 4 สมัย (2008 กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 2014, 2016, 2017 กับเรอัล มาดริด) เขาเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของรายการ (7 ประตู) ทำแฮตทริกในรอบชิงชนะเลิศปี 2016 ซึ่งโรนัลโดแสดงให้เห็นถึงความสามารถในฐานะผู้ทำประตู โดยเฉพาะการทำแฮตทริกในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้
3. เซร์คิโอ รามอส (Sergio Ramos)
สโมสร เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ 4 สมัย (2014, 2016, 2017, 2018) ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศปี 2014
ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม (Golden Ball) ปี 2014 ในฐานะกองหลัง รามอสไม่เพียงแค่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการทำประตูในช่วงเวลาสำคัญ
4. ริวาโด (Rivaldo)
จากสโมสร โครินเธียนส์ คว้าแชมป์ครั้งแรกในปี 2000 เขาเป็นผู้นำในทีมโครินเธียนส์ที่ชนะเลิศรายการนี้ ริวาโดเป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างผลงานโดดเด่นในรุ่นแรกของรายการ โดยนำโครินเธียนส์เป็นแชมป์ทีมแรกของโลก
5. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski)
สโมสร บาเยิร์น มิวนิก คว้าแชมป์ปี 2020 ทำประตูในรอบรองชนะเลิศและได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม (Golden Ball) เลวานดอฟสกี้นำบาเยิร์น มิวนิก คว้าแชมป์ FIFA Club World Cup ปี 2020 ด้วยผลงานการทำประตูที่ยอดเยี่ยม
6. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah)
จากสโมสร ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ปี 2019 เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม (Golden Ball) ซาลาห์มีบทบาทสำคัญในการนำลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ FIFA Club World Cup เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร